
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าใน พ.ศ.นี้รถยนต์ EV กำลังอยู่ในกระแสความสนใจของผู้ที่ต้องการรถใหม่ทุกคน แต่ก็อย่างที่เราทราบการจะซื้อรถใหม่ที่เป็นรถยนต์ไฟฟ้าแบบนี้ก็มีหลายสิ่งที่จะต้องพิจารณาให้รอบคอบก่อนตัดสินใจ ทั้งเรื่องของราคา เรื่องของโปรโมชั่นที่หากรถมาพร้อมประกันรถยนต์ชั้น 1 ด้วยก็จะยิ่งน่าสนใจ และที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือเรื่องของประเภทรถยนต์ที่ใช้ไฟฟ้าเหล่านี้ ที่ปัจจุบันมีตัวเลือกที่มากขึ้น
เราพอจะรู้กันอยู่บ้างแล้วว่า รถ EV หลัก ๆ ในตอนนี้ก็จะมีทั้ง BEV, HEV และ PHEV แต่ที่จะทำให้คนที่จะออกรถใหม่งุนงงพอสมควรก็จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 2 ประเภทหลัง มาดูกันว่า HEV และ PHEV รถ 2 ประเภทนี้มีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง เผื่อจะเป็นข้อมูลดี ๆที่ช่วยทำให้คุณตัดสินใจเลือกรถที่ใช่สำหรับคุณได้ง่ายขึ้น

HEV รถยนต์ระบบไฮบริด
รถยนต์แบบ HEV หรือในชื่อเต็มคือ Hybrid Electric Vehicle รถยนต์ประเภทนี้ถือว่าได้รับความนิยมในบ้านเรามาสักพักใหญ่ ๆแล้ว หลายคนที่เลือกใช้รถแบบนี้เป็นรถคันใหม่ของตนเอง ก็มักจะรู้สึกภูมิใจที่ได้ขับรถแบบเทคโนโลยีร่วมสมัย ยิ่งมีประกัน รถยนต์ชั้น 1 เคียงข้างในฐานะรถใหม่ด้วยยิ่งทำให้ขับขี่ได้สนุกและมั่นใจมากขึ้นกว่าเดิม ส่วนใครที่เล็ง ๆ รถแบบนี้ไว้ ก็มาลองทำความรู้จักรถแบบนี้คร่าว ๆ กันก่อน
- รถระบบไฮบริดนั้น เป็นรถที่มีการใช้ 2 ระบบในรถคันเดียวคือ จะมีทั้งเครื่องยนต์สันดาปแบบเดิมและมีมอเตอร์ไฟฟ้าอยู่ด้วย
- โดยการขับเคลื่อนหลักจะยังมีการใช้เครื่องยนต์อยู่ แต่ช่วงที่ชะลอความเร็ว หรือขับโดยใช้ความเร็วต่ำนั้นระบบก็จะเปลี่ยนเป็นขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า
- ช่วงที่รถชะลอตัวหรือเบรกนั้นตัวมอเตอร์จะทำการผลิตไฟฟ้าและส่งไปเก็บที่แบตเตอรี่
- การตัดสลับระบบการขับเคลื่อนแบบนี้ทำให้ประหยัดเชื้อเพลิงได้มากขึ้น
แต่อย่างไรก็ดีรถระบบไฮบริดนั้น ตัวมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่นั้นยังมีขนาดเล็ก ผลิตและเก็บไฟฟ้าได้ไม่มาก จึงทำให้มีข้อจำกัดเรื่องของระยะทางและความเร็วที่ใช้ รถแบบนี้จึงเหมาะที่จะขับขี่ในเมืองมากกว่านั่นเอง
PHEV รถยนต์ไฮบริดแบบเสียบปลั๊ก

รถ PHEVชื่อเต็มก็คือ Plug-in Hybrid Electric Vehicle เป็นรถยนต์ที่พัฒนาจากรถไฮบริดขึ้นไปอีก 1 ขั้น มีทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ แต่ตัวมอเตอร์และแบตเตอรี่ของรถยนต์แบบนี้จะมีขนาดใหญ่ขึ้น โดยรถ PHEV สามารถที่จะเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟฟ้าเข้าไปยังแบตเตอรี่โดยตรงได้เลย จะชาร์จที่สถานีชาร์จไฟหรือชาร์จกับไฟบ้านก็ได้
- รถยนต์ PHEV สามารถเลือกโหมดขับเคลื่อนเป็นการขับเคลื่อนโดยใช้พลังงานไฟฟ้าแบบ 100% ได้
- ระบบชาร์จไฟของรถแบบนี้จะเป็น 2 แบบคือ ขณะรถชะลอความเร็วก็จะเป็นการชาร์จแบตเตอรี่ไปในตัวหรือจะเลือกเสียบปลั๊กชาร์จภายหลังก็ทำได้
- ระบบการขับเคลื่อนเป็นการทำงานร่วมกันทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ โดยระบบขับเคลื่อนหลักจะเป็นไฟฟ้า และเมื่อต้องการทำความเร็วมากขึ้นระบบก็จะดึงเอาระบบของเครื่องยนต์เข้ามาช่วย
- เมื่อระบบขับเคลื่อนหลักเป็นไฟฟ้า จึงทำให้ประหยัดอัตราเชื้อเพลิงมากกว่า และยังลดมลพิษทางอากาศได้มากกว่ารถไฮบริดปกติ
- ด้วยเพราะมีมอเตอร์และแบตเตอรี่ที่ใหญ่ขึ้นจึงทำให้เก็บประจุไฟฟ้าได้มากขึ้นกว่ารถไฮบริด ตรงนี้จึงทำให้รถแบบนี้หากวิ่งโดยใช้ไฟฟ้าจะสามารถใช้ความเร็วได้มากกว่ารถไฮบริดปกติ
คงเห็นความแตกต่างระหว่าง รถ HEV และ PHEV กันแล้ว ซึ่งโดยภาพรวมจะเห็นว่ารถ PHEV มอบความสะดวกสบายและความทันสมัยให้ได้มากกว่ารถ HEV จึงดูมีความล้ำหน้าและน่าสนใจมากกว่า แต่แน่นอนว่าย่อมมาด้วยราคาที่สูงกว่าด้วยนั่นเอง
แต่ไม่ว่าคุณจะเลือกรถใหม่เป็นรถแบบไหนก็ตาม อย่าลืมพิจารณาเลือกรถที่มีโปรโมชั่นฟรีประกันรถยนต์ชั้น 1 ด้วย เพราะจะได้ความคุ้มค่ามากขึ้น ส่วนถ้าใครต้องการเช็กเบี้ยประกันหรือเปรียบเทียบประกันสำหรับต่อประกันรถคันเก่า สามารถเข้าไปเช็กได้เลยที่เว็บไซต์ EasyCompare เช็กง่ายและสะดวกมาก ช่วยให้คุณวางแผนทำประกันได้ง่ายขึ้นชัวร์